## มนุษย์หุ้น ชีวิตต้องหุ้น ## : ทำไมนักลงทุนจึงเลิกเล่นหุ้นไม่ได้ และ ทำไมนักลงทุนอย่างคุณต้องห้ามเลิกเล่นหุ้น (from http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7914476/I7914476.html, http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7914493/I7914493.html)
หากใครเคยเข้าคาสิโน จะรู้สึกถึงอารมณ์หนึ่ง นั่นก็คือ อยากลองวัดดวง ได้หรือไม่นั้น
ยังไม่รู้ผลลัพธ์ รู้เพียงว่า ความอยาก นั้นเปิดประตูใจไว้ก่อนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
การเปิดรับอย่างเต็มที่ทำให้ความรู้สึกพร้อมที่จะลองและลุย สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
คาสิโนหลายแห่ง มักจะมีรูปถ่ายผู้ที่ได้รับรางวัลแจ๊คพอต มาแสดงไว้ที่ทางเข้า เพื่อตี
สนิทและสร้างความคุ้นเคยกับประสาทตา เป้าหมายคือเปิดประตูการมองเห็น บางครั้งก็มี
การวางเป้าหมายเปิดประตูการได้ยินด้วยการ วางตู้slotที่มีการจ่ายเหรียญรางวัลจำนวนมาก
เพื่อให้เกิดเสียงที่ดังจากเหรียญภายในตู้ที่จ่ายรางวัลออกมา อาหารการกินที่เพรียบพร้อม
ยกระดับฐานะของคุณให้เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างความสนิทสนม
กับประสาทสัมผัสทั้งหลายของมนุษย์ที่กำลังตกเป็นเหยื่อของคาสิโนนั้นๆ
เหตุใดการจะเอาชนะในเกมการพนันของบ่อนคาสิโนนั้น ยากถึงเพียงนี้ มันก็มีเพียง
ดำกับแดง สูงหรือต่ำ เท่านั้นเอง ขอให้ทุกคนจงอย่าลืมว่า คาสิโนนั้นมีค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย
หากเขาแพ้คุณ แล้วเขาจะอยู่ได้หรือ สิ่งที่คาสิโนกลัวมากที่สุด คือ…..
…..ไม่ใช่คนที่มีเงินมาก สายป่านยาว ในทางตรงกันข้าม เขากลับชอบเสียอีก คนประเภทนี้
…..ไม่ใช่คนดวงดี มีกลยุทธ์ เทคนิคการแทงต่างๆมากมาย เพราะ100คนจะมีสักกี่คน
…..ไม่ใช่คนที่เล่นเสียมากๆ แล้วจะมาล้างแค้นเอาคืน เพราะยิ่งกลับมาคาสิโนยิ่งต้อนรับ
…..ไม่ใช่คนที่มีเทคนิคการโกง เพราะระบบการระมัดระวังเขามีความพร้อมสำหรับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
…..คนที่เขากลัวมากที่สุดก็คือ คนที่มาเล่นไม่ว่าจะได้หรือเสีย แล้วคิดจะเลิกเล่น
คุณได้เงินคาสิโนไป ….ไม่กลัว กลัว….คุณเลิกเล่น มากกว่า
คุณเคยมีความรู้สึกลักษณะเช่นนี้ในขณะที่ดูการแข่งขันฟุตบอลคู่สำคัญทางโทรทัศน์หรือไม่
นั่นก็คือ
…..หากเปิดโทรทัศน์ขึ้นมาแล้วการแข่งขันกำลังจะจบครึ่งหลัง ผลการแข่งขันในขณะนั้น 4-3ประตู
คุณจะต้องคิดในใจ หรือ ไม่ก็บอกกับคนรอบข้างว่า “ไม่น่าพลาดเลย อดดู อดสนุกด้วย เตะครั้งหน้า
จะไม่ให้พลาดแน่นอน”
…..และหากดูการแข่งขันจนจบลง แล้วมีการแสดงHighlight การยิงประตูในคู่สำคัญอื่นๆ
ให้ชมอีก3คู่ ซึ่งสนุกและเป็นการทำประตูที่สวยงามแทบทั้งสิ้น คุณจะยิ่งสนุกและมีอารมณ์ร่วม
ไปกับการแข่งขันมากยิ่งขึ้น และสัญญากับตนเองว่า จะไม่ให้พลาดในครั้งหน้า แน่นอน!!
หากคุณมีความรู้สึกเช่นนั้น คาสิโนก็ใช้เทคนิคไม่ต่างกันนั่นคือ
ภายในคาสิโนใหญ่ๆนั้น จะมีโต๊ะพนันมากมายหลายประเภทให้คุณได้เดินผ่าน ได้เหลียว
มอง ได้ยืนดูอย่างแน่นอน คุณคงไม่ได้ใช้เวลากับการยืนดูเกมการพนันเพียงโต๊ะเดียว หรือ
ยืนทั้งวันแค่จุดนั้นแน่นอน เสียงเฮ เสียงร้องด้วยความดีใจของผู้เล่นการพนันนั้น มีออกมาเป็น
ระยะ จากโต๊ะนั้น มุมห้องนั้น จากโต๊ะนี้ มุมห้องนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการดูHilightการยิงประตู
ของฟุตบอลนั่นเอง
- เริ่มต้นจากความอยากลอง นั้น ทำการเปิดประตูใจโดยไร้เงื่อนไข
- สิ่งที่ได้ยินจากเหรียญรางวัลและได้เห็นจากรูปถ่าย ภายในบ่อน นั้น ทำการเปิดประตูประสาทสัมผัส
- ความเพรียบพร้อมหรูหราที่ได้รับระดับVIP นั้น ได้ทำการมอบความประมาณชะล่าใจ
ใส่เข้าไปในประตูดังกล่าวทั้งหมด
- และการถูกกระตุ้นด้วยHighlight เสียงเฮ เสียงดีใจของผู้ที่เล่นได้ นั้นได้ทำการ ปิดประตูความ
กลัวของคาสิโน ที่ว่ากลัวคุณจะเลิกเล่น เพราะคุณจะหลงกลับเข้ามาเล่นใหม่ในที่สุด หากแม้ว่าไม่
ใช่ในทันที แต่ก้นบึ้งทางความคิดจะคอยสะกิดว่า ว่างเมื่อใดก็จะกลับมาอีกครั้ง
และสิ่งที่คาสิโนจะใช้ในการกรอบความคิดนักเล่นการพนัน ให้สามารถยืนหยัดสู้แบบไม่ถอยนั่น
ก็คือ การสร้างภาวะเกือบได้ให้กับนักเล่นการพนัน
บางช่วงเวลา คาสิโนจะทำการปล่อยโชคลาภออกมาเป็นชุดๆให้นักเล่นการพนัน รู้สึกว่า นี่มันคือ
แฟร์เกมจริงๆ มีได้และมีเสีย วัดดวงครึ่งต่อครึ่ง หากยามใดที่นักพนันมั่นใจว่านี่คือ เกมแห่งการ
วัดดวงจริงๆ การเสพติดก็จะบังเกิดขึ้น ระยะยาวคาสิโนไม่แพ้แน่นอน เพราะสายป่านที่ยาวกว่า
ทุนที่มากกว่า และที่สำคัญ คุณไม่มีแผนการที่จะเลิกเล่น คาสิโนจึงไร้ซึ่งความกลัวในตัวคุณแน่นอน
หากการเสพติดเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับการปลูกฝังว่า เกมนี้มีได้มีเสีย มีจ่ายมีรับ ภาวะเกือบได้
ก็จะเกิดขึ้น
เล่นได้ ได้ ได้ ได้ ได้ ได้ ได้ สร้างความมั่นใจในตัวเกมที่กำลังเล่นอยู่
เล่นได้ เสีย ได้ เสีย เสีย ได้ ได้ เสีย สร้างภาวะการณ์เสพติดให้เกิดขึ้น เกิดผลในระยะ
ยาวเพื่อต้องการเอาชนะ
เล่น เสีย เกือบได้ เสีย เกือบได้ เกือบได้ เกือบได้ เสีย เสีย สร้างภาวะการรอคอยและ
ความหวัง ทั้งๆที่แปดเกมที่เล่นมานั้น คือ คำว่า เสีย เสีย เสีย เสีย เสีย เสีย เสีย เสีย
เสียแปดเกม คือของหวานอันโอชะของคาสิโน แต่นักพนันตั้งความหวังว่าตนเองเกือบได้ไว้4เกม
ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนเกมให้มากขึ้นจาก8เกมไปสู่16เกม หรือต่อเนื่องไปจนไม่มีสิ้นสุด โดยไม่รู้ตัว
ความถี่ของรอบเกมจะมากขึ้น และรอคอยว่าคงจะมีโอกาสได้บ้าง ไม่ใช่เกือบได้ !!
หากมองว่าเสียไปแล้วแปดเกม ต้องมีถอยบ้าง พักบ้าง หรือหยุดไปเลย การถูกกรอบความคิด
ให้สู้แบบไม่ถอยนั้นก็จะไม่เกิดขึ้น ความปลอดภัยในทรัพย์สินระยะยาว ก็ยังคงอยู่ไม่ถูกบั่น
ทอนได้โดยง่าย
แล้วคาสิโน เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้นมากน้อยแค่ไหน
.
.
.
.
.
.
ติดตามอ่านต่อ ตอนที่2ถัดไปเลยครับ
ส่วนที่เกี่ยวข้องนั้นมีแน่นอนนั้นคือ การเอาเงินในกระเป๋าตนเองไปแลกกับเงินที่
มากกว่าของคนอื่น หากแลกได้สำเร็จ เราก็มีเงินมากขึ้น หากล้มเหลว ก็ตรงกันข้าม วิธีการการ
แลกของคาสิโน กับ การเล่นหุ้น นั้นอาจจะต่างกัน แต่การสร้างอารมณ์การแลก การเพาะนิสัย
การแลกของทั้งสองประเภทนั้นไม่ต่างกันเลย
การเริ่มต้นเข้าสู่วงการค้าหุ้นนั่น ความอยากลอง เปิดประตูความสนใจเป็นลำดับแรก
และเมื่อถูกกระตุ้นด้วย รายงานการซื้อขายผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ว่าวันนี้หุ้นบวกเท่านั้นเท่านี้ อีกทั้ง
ได้ยินเพื่อนฝูง พี่น้อง พูดถึงความร่ำรวย ผลกำไรที่ได้รับในระยะเวลาอันสั้น ก็เป็นการกระตุ้นประสาท
สัมผัสต่างๆให้พร้อมที่จะสู้ และพร้อมที่ลุย
นักลงทุนรายใหญ่ รายเล็ก กองทุน นักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งโบรกเกอร์นั้น ไม่กลัว
…..คนที่มีเงินลงทุนมาก สายป่านยาว ในทางตรงกันข้าม เขากลับชอบเสียอีก สร้างปริมาณ
การซื้อขายให้คึกคัก มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงตามไปด้วย และมีการทำราคา หรือ กดราคาหุ้น
สร้างความผันผวนให้กับตลาด
…..คนที่โชคดี มีกลยุทธ์ เทคนิคการลงทุนต่างๆมากมาย เพราะ100คนจะมีสักกี่คน
…..คนที่ลงทุนแล้วเสียหายมากๆ แล้วจะมาล้างแค้นเอาคืน เพราะยิ่งกลับมาโบรกเกอร์ยิ่งชอบ
เพื่อนนักลงทุนก็ชอบเพราะว่าปริมาณการซื้อขายจะได้เพิ่มสูงขึ้น
…..แต่สิ่งที่คนเหล่านั้นกลัวก็คือ คนที่มาลงทุนมาเก็งกำไรในตลาดหุ้น ถอนเงินลงทุนออกไป
ไม่ว่าจะเลิกเล่นเลิกลงทุน หรือถอนออกไปลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆ เพราะนั่นกำลังบ่งบอกว่า
เค้กบนหน้าตักที่กำลังจะตัดแบ่งกันลดน้อยลงไปด้วย
วิธีการที่เขาจะกระตุ้นให้นักลงทุน นักเก็งกำไรนั้นไม่อยากที่จะเลิกลงทุนนั้นก็คือ
การทำราคาหุ้น โดยใช้Market Maker การทำราคาหุ้นนั้นใช่ว่าต้องทำทุกๆวัน หรือ ทำ
ในทุกๆตัวหุ้น แต่จะทำราคาในช่วงที่ตลาดหุ้นซบเซา ปริมาณการซื้อขายไม่มาก หากเปรียบ
เทียบก็คือ การเติมเชื้อไฟไม่ให้มอด เหล่าแมลงเม่า จะได้มีจังหวะเข้ามาเล่นได้บ้าง
การทำราคาหุ้นเพื่อจูงใจให้นักเก็งกำไรรายวันได้เข้ามาผสมโรงนั้น ก็ไม่เพียงพอที่จะ
สร้างความคึกคักให้กับตลาด หากไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้เล่นใหม่ หรือผู้เล่นเก่าหน้าเดิมที่หัน
หลังให้ตลาดมาก่อนหน้านี้ให้กลับเข้ามาได้ ดังนั้น การทำราคาหุ้นจึงต้องมีการกระจายไป
ในตัวหุ้นขนาดเล็ก หุ้นที่มีข่าว หุ้นที่มีความผันผวน เพราะ แนวร่วม แนวไล่ แนวถอย แนวดึง
แนวทุบ นั้นพร้อมจะมีอารมณ์ร่วมได้ตลอดเวลา
หากใครเคยอ่านสรุปภาวะตลาดที่จัดทำขึ้นในแต่ละวันนั้น จะเห็นได้ว่าจะมีการสรุปหุ้น
ที่ขึ้นมากที่สุด หุ้นที่ลงมากที่สุด หุ้นที่ซื้อขายคึกคักมากที่สุด ซึ่งตรงจุดนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการ
ดูHighlight ฟุตบอลที่ดูเฉพาะลูกที่ทำประตู ลูกสวยงาม หรือ ลูกที่มีปัญหา นักลงทุน นักเก็ง
กำไรที่มาดูข้อมูลเหล่านี้ บางครั้งก็เป็นตัวเร่งในตัดสินใจต่อตลาดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากวันนี้มี
หุ้นตัวเล็กๆปรับตัวสูงขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ นักเก็งกำไรอาจจะคิดในใจว่า “วันนี้ไม่น่าพลาดเลย
พรุ่งนี้ต้องร่วมวงด้วยแล้ว” ก็คล้ายๆกับความเสียดายที่ไม่ได้ชมฟุตบอล และทำให้เกิดความตั้งใจว่า
จะไม่พลาดการชมครั้งหน้าแน่นอน Market Makerจึงสำคัญในการที่จะปลุกความคึกคักให้กับ
ตลาดหุ้น ชักชวนการเข้ามาลงทุนและเก็งกำไรของนักเล่นหุ้น ซึ่งเครื่องมือนี้ก็เสมือนดาบสองคม
หากการทำราคาหุ้นนั้นทำโดยมีวาระแอบแฝง มีการทำราคาหุ้นโดยไม่สนใจในปัจจัยพื้นฐาน
ระยะยาวนักลงทุนนักเก็งกำไรก็จะค่อยๆสูญหาย แล้วท้ายที่สุดก็จะมาย้อนสู่ความซบเซาอีกครั้ง
ดังนั้นการทำราคาหุ้นควรจะให้มีความสมเหตุสมผล เก็งกำไรแต่พอสมควร เสถียรภาพของตลาด
ในระยะยาว จะเกิดขึ้นควบคู่กับปริมาณการซื้อขายที่ไม่ซบเซาอย่างแน่นอน
หลังจากที่ความอยากได้เปิดประตูความสนใจ การถูกกระตุ้นประสาทสัมผัสทำให้
เกิดความพร้อมที่จะลงทุนและเก็งกำไร และมีตัวHighlight การลงทุนของMarket Maker ทำให้
เปิดประตูความอยากลองใหม่ ลองอีกครั้ง ….. แล้ว จะไม่ประสบความสัมฤทธิ์ผลหาก
นักลงทุนไม่ถูกจำกัดกรอบความคิด เปรียบเสมือนตบมือข้างเดียวไม่ดัง[/u[ หากมีความอยาก
หากได้ลอง หากได้ลงเล่น ได้ลองลงทุน หากใจนักลงทุนไม่สู้ เห็นการขาดทุนในครั้งแรก หรือใน
ระยะเริ่มต้น แล้วทำใจไม่ได้ การล้มเลิกลงทุนก็ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน บางคนถึงกลับปิด
ประสาทสัมผัสทุกด้าน ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่สนใจข่าวสารด้านการลงทุน เพราะเพียงแค่ได้ยิน
การถูกกระตุ้นนั้นพร้อมที่จะกลับมาทุกเมื่อ แต่จะหานักลงทุน นักเก็งกำไรได้สักกี่คน ที่คิดได้เช่นนี้
หลายคนบอกว่าจะเลิก ล้างมือจากวงการ แต่ด้วยสิ่งยั่วเย้าต่างๆ ก็ทำได้แค่เพียงลดวงเงินที่ใช้ลงทุน
ให้น้อยลง ไม่ใช่เพราะว่าต้องการเช่นนั้น แต่สูญเสียมากจนต้องจำเป็นลดขนาดเงินลงทุนลง
สำหรับบางคนที่เลิกไปก็เพราะทนกับปัญหาสุขภาพไม่ได้ หรือ ปัญหาทางครอบครัวหรืออื่นๆอีก
มากมาย แล้วเหตุใด ทำไมนักลงทุนจึงเลิกเล่นหุ้นไม่ได้ ทำไมต้องรอจนถึงวันที่ถูกบังคับให้เลิก
เพราะความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น ทำไมได้แล้วไม่พอ หรือ เสียแล้วไม่ยอม….
หากใช้หลักคาสิโนข้างต้นก็คือ ภาวะเกือบได้ และเมื่อนำเหตุผลว่า “เกือบได้”
มาใช้กับการเก็งกำไรในหุ้นตัวเล็กๆหรือหุ้นปั่น จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่า “รู้ทั้งรู้ว่าเสียเปรียบ
ก็ยังต้องเล่นหุ้นแบบนี้อีก” เล่นหุ้นประเภทนี้ เสมือน[u]เราเปิดหน้าไพ่เล่นกับเจ้ามือ
เราจะทิ้งไพ่ตัวนั้นเก็บไพ่ตัวนี้ เขาทราบหมด เราจะมาเล่นช่วงเช้า หรือช่วงบ่าย เจ้ามือทราบ
หมดว่าเวลาไหนตำรวจจะบุกเข้ามาทลายบ่อน มีเพียงแค่คนเล่นเท่านั้นที่ไม่เคยทราบ
เหมือนกับการลงทุนในหุ้น เราซื้อขายหุ้นตัวไหน มีหรือที่เจ้าของจะไม่ทราบ ปัจจัยพื้นฐาน
จริงๆเป็นอย่างไร เจ้ามือ เจ้าของหุ้น นักลงทุนรายใหญ่ใกล้ชิดและมีข้อมูลมากกว่ารายย่อย
หลายเท่า นักเล่นหุ้นไม่ทราบหรอกว่าวันไหนจะมีข่าวร้าย วันไหนจะถูกห้ามซื้อขาย วันไหนจะทุบ
วันไหนจะทำราคา กว่าจะมาทราบอีกทีตำรวจก็จับเราไปเสียค่าปรับที่โรงพักเป็นที่เรียบร้อย
แต่ค่าปรับของวงการค้าหุ้นมันมากกว่าค่าปรับที่เกิดจากการเล่นการพนันหลายเท่า
ดังนั้น จงต้องทำความเข้าใจในคำว่า เกือบได้ อย่างลึกซึ่ง
ความหมายที่แท้จริงของคำว่า เกือบได้
เกือบได้ --> ไม่ได้ -->ขาดทุน --> เสียทรัพย์ --> เงินลงทุนหาย
ความหมายผิดๆที่นักลงทุนคิดขึ้นมา
เกือบได้ --> มีความหวัง --> เอาใหม่ --> น่าจะได้ --> เกือบได้ --> มีความหวัง --> เอาใหม่….
ความหมายที่ผิดๆนั้น สรุปความได้ว่า เสีย แล้วเริ่มใหม่ เพื่อต้องการได้คืนโดยใช้ความหวัง
ที่ว่า สักวันโชคต้องเข้าข้าง แต่โชคชะตา นั่นไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ ชะตาฟ้าอยู่ในฝ่ามือ นั่นคือ ขวนขวาย
ค้นคว้า หาข้อมูล ไม่ใช่ ลงทุนแบบวัดดวง แล้วเริ่มต้นใหม่แบบวัดดวง
หากเป็นการทำมาค้าขายจริงๆ คงไม่เกิดกรณีเช่นนี้อย่างแน่นอนเพราะ รอบของภาวะเกือบได้
แล้วเริ่มต้นใหม่ นั้นต้องใช้ระยะเวลา เช่น ซื้อของเข้ามาขายในร้าน หวังว่า จะได้กำไร แต่ไม่ได้
หากจะต้องเริ่มต้นใหม่ ก็คงต้องขายสินค้าในร้านให้หมด หรือ จัดการกับสินค้าตัวอื่นๆในร้าน
ให้น่าซื้อน่าสนใจ เพื่อจะได้ระบายสินค้าได้ หากเป็นการลงทุนในหุ้น รอบของภาวะเกือบได้
อาจจะอยู่เพียงแค่10นาที หรือ ภายใน1วัน เพราะตลาดหุ้นนั้นพร้อมเสมอให้ท่านได้ซื้อขาย
ความถี่ หรือ จำนวนรอบของการลงทุนจึงมีมากขึ้น หากใช้อารมณ์ภาวะเกือบได้ เข้าร่วม
ในการตัดสินใจลงทุนด้วยแล้ว ภาวะเสพติดหุ้น ก็ไม่ต่างกับ ผีพนันเข้าสิง
การเล่นหุ้นหรือลงทุนในหุ้นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งต่างกับการเข้าบ่อนคาสิโน
การที่จะเลิกลงทุนหรือไม่เลิกลงทุน นั้นเป็นสิทธิที่สามารถจะทำได้ หากนักลงทุนค้นพบตัวตน
ที่แท้จริง เข้าใจในวิถีการลงทุนในหุ้นอย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่วิถีบ่อน คำถามที่ว่า
ทำไมนักลงทุนจึงเลิกเล่นหุ้นไม่ได้ คุณจึงไม่จำเป็นต้องตอบ
คุณมีสติ เข้าใจในวิถีหุ้น เข้าใจว่ากำไรคู่กับคำว่าขาดทุน และ ยอมถอยเมื่อรู้ตัวว่าบาดเจ็บ
พร้อมโชว์เขี้ยวเล็บเมื่อได้เปรียบ นี่คือคำตอบของคุณของคำถามที่ว่า [
b]ทำไมนักลงทุนอย่างคุณต้องห้ามเลิกเล่นหุ้น !!![/b]
ทั้งสองคำถามที่ตั้งไว้ในหัวข้อเรื่อง หรือ สองคำถามที่แสดงไว้ในช่วงท้ายของเรื่อง
คุณไม่มีสิทธิที่จะเลือกได้ว่าต้องการได้ยินคำถามไหน พฤติกรรมการลงทุน
ของคุณต่างหากจะเป็นตัวเลือกให้คุณเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น