พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ นักขายตรงหมื่นล้าน
Positioning Magazine พฤศจิกายน 2550
กิฟฟารีน ภายใต้การบริหารของ พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ด้วยแนวคิด และวิธีการที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ จนวันนี้แบรนด์ กิฟฟารีน สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม Mass สร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 10 เท่าในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นเครือข่ายธุรกิจขายตรงแบรนด์ไทยที่มาแรง สามารถชิงส่วนแบ่งจากแบรนด์ต่างชาติได้อย่างน่าจับตามอง ชื่อของ พ.ญ.นลินี จึงกลายเป็นแบรนด์ของผู้หญิงเก่ง ที่ไม่มีนักธุรกิจคนไหนที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเธอ
ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่วันหนึ่งต้องหย่าร้าง และเลี้ยงลูกเพียงลำพัง อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ผู้หญิงคนนั้นหมดหวัง แต่สำหรับ พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัทกิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ตรงกันข้าม จุดเปลี่ยนของชีวิตครั้งนั้นทำให้พลังของ พ.ญ นลินี ล้นเหลือกว่าที่หลายคนคิด
เข้าถึงใจลูกค้า
พ.ญนลินี รู้ว่าคุณสมบัติความเป็นแพทย์ และประสบการณ์จากการเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไป และผิวหนัง บวกกับประสบการณ์ธุรกิจขายตรงในแบรนด์ สุพรีเดอร์ม เมื่อครั้งยังไม่ได้หย่าจากสามี เพียงพอที่จะเป็นพื้นฐานให้ หมอนลินี หรือ หมอต้อย รู้ความต้องการลูกค้ากลุ่มนี้อยู่บ้าง แต่เพราะไม่เคยรับผิดชอบหรือทำธุรกิจด้วยตัวเอง เส้นทางนักธุรกิจของพ.ญ.นลินี จึงดูเหมือนว่าจะเริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้ยิ่งต้องค้นหาความรู้ทั้งจากตำรา และการเข้าชั้นเรียนเพื่อเสริมความรู้ด้านธุรกิจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
แม้ในช่วงแรกจะมีเสียงคัดค้านจากคนรอบข้างอยู่บ้าง เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยที่เริ่มถดถอยก่อนปี 2540 ซึ่งเป็นการยากที่แบรนด์ใหม่จะแจ้งเกิดในตลาด แต่เสียงความมุ่งมั่นของพ.ญ.นลินีดังกว่า
ทุกคนต้องการ ความสวยงาม และ ความมั่นคง ของชีวิต คือคำตอบที่เข้าถึงความรู้สึกคนทุกคนมากที่สุด จากจุดนี้จึงต่อยอดให้ กิฟฟารีน แบรนด์ขายตรงที่ พ.ญ.นลินี สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 2538 ยืนได้อย่างแข็งแรง โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจไทยในปี 2540 พังครืนจากค่าเงินบาทลอยตัว และคนว่างงานกันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจขายตรงเป็นทางออกของบางคนในช่วงนั้น
หาจุดต่างแจ้งเกิด
ด้วยความที่กิฟฟารีนเป็นสินค้าแบรนด์ไทย ขณะที่มีสินค้าแบบเดียวกันเป็นแบรนด์จากต่างประเทศทำตลาดอยู่มาก สนามที่พ.ญ.นลินีต้องลงแข่งขันจึงไม่ธรรมดา โจทย์ที่ต้องหาคำตอบ คือการหาจุดต่าง
การใช้จุดต่าง (Differentiation) ในการวาง Positioning ของสินค้า เป็นสูตรที่หลายๆ สินค้าและบริการนำมาใช้เสมอ กิฟฟารีน ก็เช่นกันที่ต้องหาจุดต่าง และเนื่องจากเป็นธุรกิจขายตรง จุดต่างจึงต้องมีใน 2 ส่วน คือผลิตภัณฑ์ที่เสนอต่อลูกค้า และระบบบริหารเครือข่าย
พ.ญ.นลินีบอกว่า ความเป็นหมอสอนไว้ว่า ไม่ให้เชื่ออะไรที่ไม่มีเหตุผล ดังนั้นเมื่อต้องเริ่มต้นบอกกับลูกค้า กิฟฟารีนเลือกวิธีชี้แจงส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน ให้ความรู้แก่ผู้ใช้ ทำให้ไม่มีข้อโต้แย้งได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของกิฟฟารีนต่างจากแบรนด์อื่น
ส่วนความต่างที่ให้กับสมาชิกเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขยายจำนวนมาสมาชิกที่ถือเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า คือ นอกจากให้ส่วนแบ่งในเปอร์เซ็นต์ที่สูงแล้ว ยังให้ความรู้สึกแก่สมาชิกว่าเป็นเสมือนผู้ถือหุ้นบริษัทที่สามารถรับรู้รายจ่าย รายได้ของบริษัทอีกด้วย
สูตรบริหาร
หากถามถึงหลักการทำงานแล้ว พ.ญ.นลินีบอกว่ามี 2 หลักใหญ่ หลักการแรกคือความระมัดระวัง เมื่อมีข้อผิดพลาด ให้เร่งหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุด
เมื่อเราไม่ได้มีพื้นฐานทางธุรกิจมาก่อน เวลาทำก็ต้องบริหารจัดการงานด้วยความระมัดระวัง เพราะเราไม่มีประสบการณ์ เราเริ่มกิจการจากกิจการเล็กๆ เริ่มต้นจากศูนย์ จึงต้องค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ เติบโต เรียนรู้ปัญหา ข้อผิดพลาด เรียกได้ว่าเติบโตจากการเรียนผิดเรียนถูก ข้อบกพร่อง Trial and Error และต้องตรวจสอบตัวเองตลอดเวลา เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นต้องรีบแก้ไข หาสาเหตุให้เร็วที่สุด
หลักการที่สองพ.ญ.นลินีใช้หลักจิตวิทยา ในการบริหารบุคลากร และเครือข่ายของกิฟฟารีน ด้วยหลักการคิดที่ว่าทำให้คนที่ทำงานด้วยมีความสุข เห็นใจซึ่งกันและกัน คิดถึงใจคนที่มาอยู่ด้วยกัน ให้เขาเติบโต และมีความเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน เติบโตไปด้วยกัน ไม่ Centralize ที่ตัวเอง ต้องรู้ว่าคนทำงานกับเรา เขาต้องการอะไรและรับฟังความคิดเห็นของเขา
ส่วนจะมีบ้างหรือไม่สำหรับพ.ญ.นลินีที่เกิดความรู้สึกท้อแท้ คำตอบโดยอัตโนมัติจากพ.ญ.นลินี คือไม่เคยท้อ ปัญหาที่เข้ามาถือเป็นความท้าทาย อุปสรรคที่เข้ามาต้องรีบคิดหาสาเหตุและแก้ไขให้ได้ ส่วนกำลังใจที่สำคัญคือมาจากครอบครัว และความที่ต้องรับผิดชอบต่อคนจำนวนมาก
สวยปิ๊งเสริมแบรนด์
เมื่อเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและสุขภาพ พ.ญ.นลินีบอกว่าการวาง Positioning ตัวเองเพื่อให้สะท้อนแบรนด์สินค้าเป็นสิ่งจำเป็น
บุคลิกเราเป็นแบรนด์เหมือนกัน ธุรกิจเราต่างจากธุรกิจค้าปลีก Consumer Product ทั่วไป เราต้องแสดงความเป็นธุรกิจขายตรง และเครือข่าย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตัวเราเป็นจะบ่งบอกถึงสินค้าของเรา เมื่อเราเป็นธุรกิจขายตรงให้ความจริงใจกับสมาชิกและลูกค้า เพราะฉะนั้นเวลาพูดกับใครต้องชัดเจน ตัวเองก็เป็นคน Clear อยู่แล้ว และที่สำคัญต้องใช้ Prodcut ของตัวเอง
จึงเป็นภาพที่พบเห็นเสมอสำหรับ พ.ญ.นลินี เมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชนมักสวยปิ๊ง และเนี้ยบ แม้ชุดที่คุ้นตาที่สุดคือในชุดสูททำงานสุดเท่ แต่จริงๆ แล้วพ.ญ.นลินีบอกว่า ส่วนตัวเป็นคนง่ายๆ ไม่ชอบแต่งตัว บางครั้งก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เพียงแต่การแต่งกายในช่วงทำงาน หรือออกงานต่างๆ ก็ต้องให้เหมาะสม ถูกกาลเทศะ
ที่สำคัญคือ ไม่ได้เป็นคนที่ยึดติดว่าต้องใส่ชุดของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง สำหรับชุดที่สวมใส่ประจำเช่น Flynow และ G2000 ซึ่งความลงตัวตลอดเวลานั้น ทั้งหมดเป็นฝีมือเลือก และแต่งด้วยตัวเองของพ.ญ.นลินี โดยไม่จำเป็นต้องมีดีไซเนอร์มาช่วยจัดให้แต่อย่างใด
ส่งพลังลุยปี2008
ปี 2007 สำหรับกิฟฟารีนแล้วทั้งจากยอดขายที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นแบรนด์ที่ถูกพูดถึงมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญพ.ญ.นลินีได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 3 ของนักธุรกิจไทย จากทั้งหมด 15 คนทั่วโลกที่ได้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีดีเด่นโลก ปี 2007 (Leading Women Enterpreneurs of the World 2007) ซึ่งพ.ญ.นลินีบอกว่าถือเป็นช่วงสำคัญของจังหวะชีวิตในปีนี้
จากจุดนี้ พ.ญ.นลินีบอกว่าผลงานในปี 2007 สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าของธุรกิจกิฟฟารีน ในด้านความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นวัดจากผลประกอบการ เพราะรางวัลนักธุรกิจสตรีดีเด่นโลกซึ่งพิจารณาจากผลประกอบการของธุรกิจที่ทำอยู่ด้วย ส่วนที่สอง มองว่าคนไทยเริ่มเข้าใจแบรนด์ และมองธุรกิจกิฟฟารีนเป็นมิตรมากขึ้น
ผลที่งอกงามสำหรับพ.ญ.นลินีในปี 2007 มาจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้เป็นปีที่ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์สร้างให้ลูกค้ายอมรับนับถือแบรนด์กิฟฟารีนให้มากที่สุด ซึ่งนอกจากพ.ญ.นลินีจะบริหารธุรกิจด้วยตัวเองแล้ว ยังเป็นครีเอทีฟดูแลหนังโฆษณาด้วยตัวเองตั้งแต่ปี 2006
แม้ กิฟฟารีน จะไม่ได้ทำธุรกิจแบบเดียวกับแบรนด์ มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ของอังกฤษ ที่พ.ญ.นลินีเลือกเป็นแบรนด์ที่ชื่นชอบ ด้วยเหตุผลว่าเพราะมี Products ทุกอย่าง ลูกค้าที่เข้าไปซื้อของที่นี่จะซื้อด้วยความมั่นใจ เป็นแบรนด์ของคนทั่วโลก ที่น่าสนใจเพราะสามารถทำสำเร็จในการจับตลาด Mass ได้หมด
แต่การเข้าถึง Mass คือเป้าหมายเดียวกัน โดยเฉพาะปี 2008 ที่พ.ญ.นลินีวางแผนให้กิฟฟารีนมีผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสนองตอบลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม B ถึง C+ และให้ผู้ที่มาร่วมธุรกิจมีโอกาสเติบโตมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือให้แบรนด์กิฟฟารีนแข็งแรง เป็นที่ประทับใจของลูกค้าจำนวนมากเหมือนกัน
Profile
แบรนด์ : กิฟฟารีน
ลักษณะธุรกิจ : ระบบธุรกิจขายตรง MLM (Multi Level Marketing)
รายได้ :
ปี 2549 - 3,400 ล้านบาท
ปี 2550 - คาด 3,900 ล้านบาท
รวม 11 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจ สร้างยอดขายรวม 23,000 ล้านบาท
งบการตลาด : ปี 2550 มูลค่า 60-80 ล้านบาท
Name : แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์
Age : 48 ปี
Education :
มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
แพทย์ศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวชวิทยา)
Career Highlights :
2538-ปัจจุบัน ประธานกรรมการ บริษัทกิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด
ประธานกรรมการ โรงเรียนศิลปะศาสตร์การแต่งหน้า กิฟฟารีน
from http://www.siamsouth.com/smf/index.php/topic,2652.0.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น