03 พฤษภาคม 2553

Role Model แวลูอินเวสเตอร์ โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

Role Model แวลูอินเวสเตอร์ โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่มักมีนักลงทุนที่เป็น "บุคคลต้นแบบ" (Role Model) ของตนเองเสมอไม่ว่าจะเป็นนักเก็งกำไร นักเทคนิคหรือแม้แต่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า บุคคลที่เป็นต้นแบบเหล่านี้มักเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนตามแนวทางที่เราชื่นชอบ

สำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investor) บุคคลที่เป็นนักลงทุนต้นแบบคงหนีไม่พ้น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งกลายเป็นตำนานไปแล้ว เหตุผลหลักๆที่นักลงทุนในประเทศไทยหรือในต่างประเทศต่างชื่นชมบัฟเฟตต์ในฐานะนักลงทุนต้นแบบของตนอาจเป็นไปได้ดังนี้

ข้อหนึ่ง บัฟเฟตต์ เริ่มต้นจากฐานะครอบครัวชนชั้นกลางธรรมดาแต่ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นในการลงทุน ทำให้เขาสามารถสร้างตัวได้จนเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้คนจำนวนมากรวมถึงนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าทั้งหลายส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดมาจากกองเงินกองทองหรือมีมรดกตกทอดเป็นจำนวนมหาศาล นักลงทุนจำนวนมากเป็นชนชั้นกลางที่เริ่มต้นจากการทำธุรกิจเล็กๆ หรือไม่ ก็ทำงานเป็นลูกจ้างในองค์กรต่างๆ บัฟเฟตต์เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุนหลายๆ คนที่คิดว่าตนเองสามารถสร้างตัวให้เป็นเศรษฐีได้จากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

มีคนอีกมากที่ไม่เชื่อในความสามารถของตนเองว่าจะทำได้ แต่สำหรับคนที่เชื่อมั่นในแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าและเชื่อมั่นในหลักการเหมือนบัฟเฟตต์สามารถสร้างตัวเองจากการลงทุนได้ด้วยตนเอง มีนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยหลายคนเริ่มต้นจากเงินเพียงไม่กี่แสนบาทแต่สามารถทำเงินได้หลายสิบหรือหลายร้อยล้านบาทได้ด้วยหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า การสร้างฐานะจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่จำเป็นต้องทำด้วยการเก็งกำไรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป สิ่งที่นักลงทุนต้องมีคือความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการลงทุนและระยะเวลาในการลงทุนที่ยาวมากพอ

ข้อสอง บัฟเฟตต์ยึดมั่นในหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่างเหนียวแน่น นักลงทุนจำนวนมากเริ่มสนใจในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แต่พอลงทุนไปได้สักพักรู้สึกว่าผลตอบแทนที่ได้มันช้าเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หุ้นที่ถืออยู่ราคากลับไม่ไปไหน ทำให้คิดว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าใช้ไม่ได้สำหรับตลาดหุ้นไทย จากนั้นจึงหันไปเก็งกำไรแทน นั่นเป็นเพราะการลงทุนแบบเน้นคุณค่าจำเป็นต้องมีวินัยและความอดทนในการลงทุนค่อนข้างสูง บัฟเฟตต์ก็เช่นเดียวกัน ในช่วงทศวรรษ 1990 ช่วงยุคตลาดหุ้นดอทคอมกำลังบูม ราคาหุ้นเทคโนโลยีเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากนักลงทุนมองว่าอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารต่างๆ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลก ราคาหุ้นของบริษัทเบิร์คไชน์ตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์เพราะบัฟเฟตต์ไม่ได้ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีเหล่านั้นเลย

เขาบอกว่าเขาไม่เข้าใจและมองธุรกิจของบริษัทดอทคอมเหล่านั้นไม่ออก เขาไม่ละเมิดหลักการลงทุนของเขาเองที่ว่าจะไม่ลงทุนในธุรกิจที่ไม่เข้าใจและไม่สามารถประเมินมูลค่าของกิจการได้ สื่อต่างๆ ในช่วงนั้นเรียกนักลงทุนที่ยังยึดแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าว่าเป็นพวกล้าหลัง และบางแห่งถึงกับบอกว่าบัฟเฟตต์แพ้เสียแล้ว แต่ในเวลาต่อมา เวลาได้พิสูจน์ว่าบัฟเฟตต์เป็นฝ่ายถูก เพราะตลาดหุ้นดอทคอมเหล่านั้นได้ประสบกับภาวะฟองสบู่แตก ราคาหุ้นลดลงอย่างมากจนบัดนี้ดัชนีแนสแด็กยังไม่กลับไปยังจุดที่เคยสูงสุดเมื่อต้นทศวรรษ 2000 ได้เลย การไม่ละทิ้งหลักการการลงทุนของตนเองในช่วงเวลาที่ประสบกับภาวะทำผลตอบแทนแพ้ตลาดทำให้บัฟเฟตต์ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก

ข้อสุดท้าย บัฟเฟตต์เป็นเศรษฐีที่ใช้ชีวิตติดดินมากที่สุดคนหนึ่ง เขายังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่ซื้อมาเมื่อสี่สิบปีที่แล้วด้วยราคา 30,000 เหรียญ ใช้รถยนต์คนเดิมเป็นเวลากว่าสิบปี ชอบกินอาหารที่ร้านแมคโดนัลด์ ถึงแม้เขาจะทำเงินได้มากแต่ยังใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้แสดงออกถึงความหรูหราตามประสาคนรวยทั่วๆ ไป การใช้ชีวิตเช่นนี้เป็นแรงบันดาลใจให้นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าปฏิบัติตาม ดังนั้นนักลงทุนวีไอในเมืองไทยหลายท่านมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐีแต่ยังใช้ชีวิตธรรมดาจนคนทั่วไปดูไม่ออกว่าเขารวยแค่ไหนเช่นเดียวกัน

from http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/ceo-blogs/viboon/20100426/113044/Role-Model-แวลูอินเวสเตอร์.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความยอดนิยม (ล่าสุด)

บทความยอดนิยม (1 ปีย้อนหลัง)