"เอดจ์" ศัตรูร้ายคินเดิล-ไอแพด?
"เอดจ์" (Edge) จากบริษัทเอนทัวเรท ซิสเต็มส์ (Entourage Systems) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกนำมาโชว์ตัวครั้งแรกในงาน CES 2010 มันเป็นอุปกรณ์ลูกผสมระหว่างเน็ตบุ๊ก และอีบุ๊ก ที่กำลังพยายามต่อสู้อยากหนักหน่วงในสงครามเครื่องอ่านอีบุ๊ก ระหว่างไอแพด (iPad) และคินเดิล (Kindle) เพื่อให้ได้เป็นเจ้าตลาดในอนาคต
โฆษกจากบริษัทเอนทัวเรท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า เอดจ์เป็นอีบุ๊ก 2 หน้าจอ ที่วางจำหน่ายบนเว็บไซด์ www.entourageedge.com มีขนาดเท่าเน็ตบุ๊ก และเปิดได้เหมือนหนังสือ ภายในมีหน้าจออีอิงค์ขนาด 9.7 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าหน้าจอของคินเดิลและโซนี่ อีกด้านหนึ่งมีหน้าจอแอลซีดีขนาด 10.1นิ้ว แบบที่สามารถใช้เข้าอินเทอร์เน็ต และดูไฟล์วิดีโอ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือ และไฟล์เอกสารบนจออิเล็กทรอนิกส์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ในขณะที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมประมาณ 1.4 กิโลกรัม ซึ่งมีหนักเท่ากับเน็ตบุ๊กในท้องตลาด และหนักเป็น 2 เท่าของไอแพด อีกทั้งยังทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล ซึ่งถือเป็นระบบปฏิบัติการเปิดที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้
ด้าน Asghar Mostafa ซีอีโอบริษัทเอนทัวเรท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า เอดจ์ออกแบบมาเพื่อนักธุรกิจ และนักเรียน นักศึกษา โดยผู้ใช้งานสามารถเขียนข้อความ หรือทำไฮไลท์ข้อความสำคัญลงบนไฟล์เอกสารผ่านปากกาสไตลัสที่ให้มา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเรียนในห้องเรียน หรือจะจดโน้ตย่อในห้องประชุม อีกทั้งยังสามารถเซฟไฟล์เอกสารที่คุณทำการขีดเขียนลงไป เพื่อนำไปเปิดบนคอมพิวเตอร์ได้ รวมถึงการอัพโหลดไฟล์จากเว็บไซด์ หรืออีเมล์ได้โดยตรง
โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกดาวน์โหลดอีบุ๊กได้จากร้านหนังสือออนไลน์ของเอนทัวเรท (Entourage e-bookstore) ตามการจัดลำดับหนังสือขายดี หรือเลือกดาวน์โหลดหนังสือเฉพาะทางจากกูเกิล บุ๊ก ได้
ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้น ก็ไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่ง "เอดจ์" มาพร้อมพอร์ตยูเอสบี 2 ช่อง, มินิ ยูเอสบี, ตัวอ่าน SD card ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการโหลดไฟล์เอกสารจากภายนอกมาไว้ภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้หน่วยความจำภายในมาให้ 4 กิกะไบต์, ช่องใส่ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่อ 3G, ไวไฟ และบลูทูธ
โฆษกอ้างว่า เอดจ์มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นาน 16 ชั่วโมง ซึ่งระยะเวลาของแบตเตอรี่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ เนื่องจากหน้าจอสีนั้นค่อนข้างกินแบตฯ แต่ถึงอย่างไรเอดจ์ก็มีแบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถพกแบตฯ สำรองติดตัวไปได้ตลอด ซึ่งจุดนี้นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่ากลัวในการโค่นล้มคินเดิลและไอแพด
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ความคิดเห็นหลังจากทดลองใช้งาน"เอดจ์" ว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่หลายจุด อาทิเช่น กล้องเว็บแคมที่ไม่มีความคมชัด, หน้าจอแบบสัมผัสไม่มีความแข็งแรง ซึ่งจะยุบตัวลงไปตามแรงกด รวมถึงคีย์บอร์ดที่ยังไม่มีความแม่นยำเท่าที่ควรและถึงแม้ว่าเอดจ์จะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเปิดที่น่าจะมีแอปพลิเคชันให้ใช้งานมากมาย แต่ในแอนดรอยด์มาร์เก็ต กลับไม่มีแอปพลิเคชันตัวไหนที่เขียนขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้งานบนเอดจ์เลย
สุดท้ายเรื่องของน้ำหนัก ที่หนัก 1.4 กิโลกรัม ซึ่งมันดูหนักเกินไปสำหรับการใช้เป็นอีบุ๊ก และเอดจ์ก็ไม่มีทางที่จะมาแทนโน๊ตบุ๊กได้ เนื่องจากการใช้งานคีย์บอร์ดบนหน้าจอแบบสัมผัสยังทำได้ค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ดี เราต้องชื่นชมผู้ผลิตในความพยายามที่จะอัดเทคโนโลยีหลายๆ อย่างลงไปในเอดจ์ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ออกมา แต่ทว่าเอดจ์ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้น ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊ก
เครื่องอ่านอีบุ๊กแบบ 2 หน้าจอ "เอนทัวเรท เอดจ์" มีจำหน่ายบนเว็บไซด์ www.entourageedge.com ในราคา 499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,000 บาท และมี 5 สีให้เลือกคือ น้ำเงิน, ดำ, แดง, ขาว และฟ้า
from http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9530000081702
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น