30 มกราคม 2554

ต้องทำอย่างไรเมื่อมีกำไร จากการลงทุนในLTF

ถ้าคุณลงทุนในกองทุน LTF และ RMF แล้วขายมีกำไร ต้องกรอกภาษีอย่างไร คลิกเข้าไปอ่าน

Q.....ผมได้ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไว้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้นเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาทตั้งแต่เมื่อปี 2549 และได้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อไว้จนครบ 5 ปีปฏิทิน โดยขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดในปี 2553 ได้เงินคืนมาเป็นจำนวนเงิน 320,764.89 บาท เท่ากับมีกำไรจากการลงทุน 120,764.89 บาท ซึ่งเป็นเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีตามกฎหมาย แต่หนังสือแสดงการขายคืนหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF ที่ผมได้รับจากบริษัทจัดการกองทุนรวมได้มีข้อความบอกให้ผมต้องนำเงินกำไรที่ได้รับนี้ไปแสดงไว้ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีเพื่อยื่นเสียภาษี ผมไม่เข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ และถ้าไม่ทำจะเป็นอะไรไหมครับ

A....คำถามนี้เป็นคำถามที่มีผู้ถามมาทุกครั้งเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลที่จะต้องมีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี โดยผมต้องขอเรียนผู้อ่านให้เข้าใจและหมดความกังวลก่อนนะครับว่า ผู้มีเงินได้ที่ขายคืนหน่วยลงทุนไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งได้มีการลงทุนครบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดไว้แล้ว หากมีกำไรจากการลงทุนจะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับเงินกำไรที่ได้รับนั้น แต่จุดมุ่งหมายของข้อความในหนังสือแสดงการขายคืนหน่วยลงทุนที่บอกกล่าวไว้นั้น
ก็เพียงต้องการให้ผู้ที่ขายคืนหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF หรือกองทุนรวม RMF นำเงินกำไรที่ได้ไปกรอกรายการในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 ประจำปี สำหรับกรณีผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป
ซึ่ง ภ.ง.ด. 90 นั้นเป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้ซึ่งมีเงินได้อื่นที่ไม่ใช่เงินได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40 (1) หรือไม่ได้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40 (1)
เพียงประเภทเดียว โดยกำไรจากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF หรือกองทุนรวม RMF นั้นถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) โดยหากผู้ที่ขายคืนหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF หรือ กองทุนรวม RMF มีการลงทุนครบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดแล้วก็จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรที่ได้รับมานั้น ซึ่ง ภ.ง.ด. 90 นั้นจะมีช่องสำหรับกรอกรายการเงินกำไรที่ได้รับยกเว้นไว้ให้

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนผมจึงขอนำแบบแสดงรายการข้อ 7 ข้อย่อยที่ 4. และ 5. ในรายการเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) ซึ่งอยู่ในหน้า 3 ของ ภ.ง.ด. 90 มาให้ดูว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร และผู้มีเงินได้จะต้องดำเนินการอย่างไร สำหรับกรณีของผู้ถามที่มีการลงทุน 200,000 บาท และขายคืนเมื่อครบระยะเวลา 5 ปีปฏิทินได้รับเงินคืน 320,764.89 บาท ซึ่งมีกำไร 120,764.89 บาท ในการกรอกรายการก็จะกรอกรายการในข้อย่อยที่ 5. ว่ามี “เงินค่าขายหน่วยลงทุนคืนให้กองทุนรวมหุ้นระยะยาว” จำนวน 320,764.89 “หัก ราคาทุน” 200,000.00 แล้วทำเครื่องหมายในช่อง “o ยกเว้น” ของ “เงินส่วนต่างกรณี ราคาขายมากกว่าราคาทุน” และกรอกจำนวนเงินกำไร 120,764.89 ไว้ในบรรทัดเดียวกันนั้น ก็เป็นอันเสร็จสิ้น โดย
ในส่วนของจำนวน "รวม" ถึง “ยกไปรวมใน ข้อ 10 1.” นั้น ก็ไม่ต้องนำกำไร 120,764.89 ไปรวมกับจำนวนอื่นๆ (ถ้ามี) ครับ

แต่หากเป็นกรณีที่ขายคืนโดยปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด ก็ให้ทำเครื่องหมายในช่อง “o ไม่ยกเว้น” ของ “เงินส่วนต่างกรณีราคาขายมากกว่าราคาทุน” และกรอกจำนวนเงินกำไรไว้ในบรรทัดเดียวกันนั้น แล้วให้นำกำไรนั้นไปรวมกับจำนวนอื่นๆ (ถ้ามี) แล้วกรอกจำนวนรวมในบรรทัด "รวม" ถึง “ยกไปรวมใน ข้อ 10 1.” ด้วย สำหรับกรณีเงินกำไรที่ได้จากกองทุน RMF ก็จะมีลักษณะในการกรอกรายการในแบบ ภ.ง.ด. 90 ข้อ 7 เช่นเดียวกัน โดยอยู่ในข้อย่อยที่ 4. ครับ

ประโยชน์ของการแจ้งกำไรจากการลงทุนในกองทุน LTF หรือ RMF ในรายการของแบบ ภ.ง.ด. 90 นั้น นอกจากจะมีไว้เพื่อการตรวจสอบของกรมสรรพากรแล้ว ผู้มีเงินได้ยังจะสามารถนำเงินกำไรจากการลงทุนในกองทุนรวม LTF หรือ RMF ที่แจ้งนั้นไปคำนวณรวมเป็นฐานเงินได้สำหรับซื้อกองทุนรวม LTF และ RMF ใหม่ในปีที่ขายคืนนั้นได้อีกด้วยครับ

กรณีที่มีกำไรและได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นั้นหากจะไม่ดำเนินการกรอกรายการตามที่กล่าวแล้วในข้างต้นจะมีผลอย่างไรนั้น คงจะตอบได้ว่าไม่มีผลกระทบให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านภาษีที่จะต้องจ่ายแต่อย่างใดครับ แต่ปัจจุบันเท่าที่ทราบกรมสรรพากรจะติดต่อเรียกให้ผู้มีเงินได้ไปดำเนินการแก้ไขการยื่นแบบให้ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ผู้มีเงินได้ต้องเสียเวลาไปดำเนินการเท่านั้น
ส่วนกรณีถ้ามีกำไรแต่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้แล้วไม่กรอกรายการให้ถูกต้อง นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ผู้มีเงินก็อาจจะต้องเสียภาษีพร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับได้ ตามแต่กรณีหากคำนวณแล้วมีภาษีในจำนวนที่สูงกว่าเดิมที่เคยได้ยื่นแบบไว้ ทั้งนี้ ผู้มีเงินได้อาจจะสงสัยว่ากรมสรรพากรจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้มีเงินได้มีการขายคืนหน่วยลงทุนในกองทุนรวม LTF หรือกองทุนรวม RMF แล้วมีกำไรหรือขาดทุน ผมขอเรียนเพื่อทราบว่า กรมสรรพากรได้มีหนังสือขอให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมทุกแห่งนำส่งรายการของการซื้อขายกองทุนรวม LTF และกองทุนรวม RMF ไปยังกรมสรรพากรทุกปี
ดังนั้น หากกรมสรรพากรทำการตรวจสอบจากข้อมูลตามที่มีการส่งให้นั้น กรมสรรพากรจะทราบว่าผู้มีเงินได้รายใดมีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ในส่วนของการขายคืนกองทุนรวม LTF และกองทุนรวม RMF ไว้อย่างไม่ถูกต้องได้ครับ

from http://bit.ly/fCLiSH


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความยอดนิยม (ล่าสุด)

บทความยอดนิยม (1 ปีย้อนหลัง)