ตอนที่15 : คนรวยให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวเอง คนจนทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน
คนรวยให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวเอง
คนจนทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินถ้าคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่
คุณคงเติบโตขึ้นมาโดยถูกสั่งสอนให้ "ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน" ในทางตรงกันข้าม
เป็นไปได้มากทีเดียวว่าคุณคงไม่เคยถูกสอนว่า "การใช้เงินทำงานหนัก"
ให้คุณก็สำคัญไม่แพ้กัน
ควรรวยมีเวลาเล่นสนุกสนานและพักผ่อนเพราะพวกเขาทำงานอย่างชาญฉลาด
พวกเขาเข้าใจและนำหลักการเพิ่มค่าของเงินมาใช้ให้เกิดประโยชน์
พวกเขาจ้างคนมาทำงานและยังใช้เงินของตนทำงานแทนด้วย
คนรวยเข้าใจว่า "คุณ" ต้องทำงานหนัก จนกระทั่ง "เงิน"
ของคุณสามารถทำงานหนักให้คุณได้ และตัวคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องทำงานอีกต่อไป
พวกเขาเข้าใจว่า ยิ่งเงินของคุณทำงานหนักเท่าไหร่
ตัวคุณจำเป็นต้องทำงานน้อยลงเท่านั้น
ขอย้ำอีกครั้งว่า
ก่อนอื่นคุณต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน
แล้วจึงให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวคุณเองบ้าง
ในการสัมมนาของผม
เกมการเงินของเรามีเป้าหมายเพื่อให้
"ไม่ต้องทำงานอีกเลย...นอกเสียจากคุณเลือกที่จะทำ" และถ้าคุณต้องทำงาน คุณก็จะทำงาน
"ด้วยใจรัก ไม่ใช่เพราะความจำเป็น"
อิสรภาพทางการเงินในนิยามของผมคือ
ความสามารถที่จะดำเนินชีวิตในรูปแบบที่คุณต้องการโดยไม่จำเป็นต้องทำงานหรือพึ่งพาคนอื่นในเรื่องเงิน
คุณจะมีอิสรภาพทางการเงินเมื่อรายได้งอกเงยของคุณมีจำนวนมากกว่ารายจ่าย
แหล่งที่มาของรายได้งอกเงยอย่างแรกคือ
"เงินสร้างเงิน" ซึ่งได้แก่ รายได้จากการลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตร
ตั๋วเงินคงคลัง ตลาดเงิน กองทุนรวม รวมไปถึงทรัพย์สินอื่นๆ
ที่ถือว่ามีค่าและแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
แหล่งรายได้งอกเงยอีกอย่างคือ
"ธุรกิจสร้างเงิน"
หรือธุรกิจซึ่งนำมาซึ่งรายได้ต่อเนื่องโดยคุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อให้ธุรกิจนั้นสามารถดำเนินการหรือสร้างรายได้
ตัวอย่างเช่น การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ค่าลิขสิทธิ์หนังสือ ดนตรี หรือซอฟท์แวร์
การขายแฟรนไชส์ การให้เช่าโกดังเก็บสินค้า การทำธุรกิจแบบเครือข่าย
การลงทุนกับเครื่องขายของหรือหยอดเหรียญต่างๆ ฯลฯ หลักการคร่าวๆคือ
การให้ธุรกิจทำงานแทนคุณและสร้างรายได้ด้วยตัวของมันเอง
ผมไม่ได้กล่าวถึงความสำคัญของการสร้างรายได้งอกเงยมากเกินความเป็นจริงหรอก
เพราะถ้าคุณไม่มีรายได้งอกเงย
คุณย่อมไม่มีทางเป็นอิสระทางการเงินอย่างแน่นอน
แต่คุณรู้ไหม่ว่าคนส่วนใหญ่มีปัญหากับการสร้างรายได้งอกเงยมาก
เหตุผลมีสามประการ ข้อแรกคือการถูกปลูกฝังตั้งแต่ในวัยเด็ก
พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกโปรแกรมมาไม่ให้สร้างรายได้งอกเงย ข้อสอง
ไม่มีใครเคยสอนเราว่าจะสร้างรายได้งอกเงยได้อย่างไร ข้อสุดท้าย
ในเมื่อเราไม่เคยถูกสอนเรื่องการสร้างรายได้งอกเงยเลย เราจึงไม่ให้ความสนใจกับมัน
เรามีรายได้จากการประกอบอาชีพและทำธุรกิจเป็นหลัก
แต่ถ้าคุณเข้าใจตั้งแต่ในวัยเด็กว่าจุดมุ่งหมายหลักทางการเงินของเรา
คือการสร้างรายได้งอกเงย
คุณอาจคิดทบทวนก่อนตัดสินใจเลือกอาชีพก็เป็นได้
คุณมีสองวิธีให้เลือกในการสร้างความร่ำรวย
นั่นคือ คุณต้องมีรายได้มากขึ้น หรือใช้เงินน้อยลง คุณมีอำนาจในการตัดสินใจเลือก
อะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ? คนจนมักเลือกความสุขชั่วครู่ชั่วยาม
ขณะที่คนรวยเลือกความสมดุล
บ่อยครั้งที่
"การใช้เงิน" ทั้งๆที่ "ไม่มี" เป็นเพียง "การระบาย"
อารมณ์ที่คุณมีอาการนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป่วา
การบำบัดด้วยการซื้อ
จงซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่คุณสามารถซื้อได้ในตอนนี้
ถ้าคุณต้องการเงินทุนมากกว่าที่มี
คุณอาจร่วมหุ้นกับคนที่คุณเชื่อใจและรู้จักดีก็ได้
ทางเดียวที่คุณจะมีปัญหาจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็คือ
การจ่ายเกินกำลังหรือจำเป็นต้องขายตอนราคาตก อย่างที่เขาพูดกันนั่นแหละว่า
"อย่ารอเวลาที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์
ซื้อไว้ก่อนแล้วค่อยรอทีหลังจะดีกว่า"
เคล็ดลับคือการศึกษาค้นคว้า การเรียนรู้เรื่องการลงทุน
หัดทำความคุ้นเคยกับวิธีลงทุนและเครื่องมือทางการเงินต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์
หุ้น กองทุน พันธบัตร การแลกเปลี่ยนเงินตรา ฯลฯ
จากนั้นฝึกปรือความสามารถด้านใดด้านหนึ่งให้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
เริ่มต้นลงทุนในด้านนั้นแล้วค่อยหัดลงทุนในด้านอื่นๆ
ต่อไป
สรุปได้ว่า คนจนทำงานหนักและใช้เงินทั้งหมดที่หามาได้
พวกเขาจึงต้องทำงานหนักตลอดไป ส่วนคนรวยทำงานหนัก สะสมเงิน และนำไปลงทุน
พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องทำงานหนักอีก
from http://www.oknation.net/blog/dy22
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น