ผลงานแผ่วช่วงปี 2013-2016
จากกราฟด้านล่างช่วงปี 2013-2016 ผลการดำเนินงานของ KFSDIV ไม่ค่อยดี ทำให้บางคนตัดสินใจสลับเงินไปลงทุนกับ บลจ อื่นแทน
ที่มา www.krungsriasset.com
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานของ KFSDIV ไม่ค่อยดีอาจจะมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุน กองทุนมีการขายหุ้นร้านสะดวกซื้อออกไปเพราะปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล ณ ตอนนั้น และได้สลับเงินไปลงทุนกับหุ้นพลังงาน ประกอบกับราคาน้ำมันเป็นช่วงขาลงพอดี
ผลงานเริ่มดีขึ้น
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ผลงานของ KFSDIV เริ่มดีขึ้น และทำผลงานได้ดีกว่า SET INDEX ดังรูป
ที่มา www.krungsriasset.com
ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีและสามารถคาดหวังได้ว่าอนาคตน่าจะทำได้ดีกว่าช่วงปี 2013-2016 อาจจะมาจากการทำงานของทีมผู้บริหารชุดใหม่เริ่มลงตัวขึ้น
KFSDIV เทียบกับกองทุนคู่แข่ง
ผมลองเทียบ KFSDIV กับกองทุนอื่นๆ ที่ลงทุนในหุ้นไทยโดยใช้เครื่องมือจากเว็บ morningstarthailand.com และเลือก Category = Equity Large Cap และเรียงลำดับตาม Morningstar Rating Overall พบว่า KFSDIV นั้นอยู่อันดับที่ 20 - 30 จากทั้งหมด 200 กว่ากองทุนครับ แสดงว่า ยังมีอีกหลายกองทุนที่ทำผลงานได้ดีกว่า KFSDIV แต่ก็มีอีกหลายกองทุนเช่นกันที่ทำผลงานได้แย่กว่า KFSDIV (เปรียบเทียบแบบคร่าวๆนะครับ) โดย KFSDIV นั้นได้ Morningstar Rating Overall 4 ดาวครับ
ที่มา morningstarthailand.com
ข้อด้อยของ KFSDIV ในมุมมองของผม
ขอเริ่มจากข้อด้อยก่อน และจะกร่าวถึงข้อเด่นทีหลังนะครับ ซึ่งในมุมมองของผม KFSDIV มีข้อด้อยดังนี้
- ค่าธรรมเนียมแพงกว่ากองทุนอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน
- ผลงานไม่ติด Top 10
ข้อดีของ KFSDIV ในมุมมองของผม
- มีรายงานสรุปกองทุนประจำเดือนให้นักลงทุนได้อ่าน (สามารถดาวน์โหลดได้ที่เมนู ภาวะตลาดกองทุน KFSDIV จากเว็บ https://www.krungsriasset.com/th/FundDetail.html?fund=KFSDIV)
- Portfolio Turnover Ratio ค่อนข้างต่ำ โดยจากรายงานประจำปี 2560 นั้น Portfolio Turnover Ratio ของ KFSDIV มีค่า 24.6% ซึ่งถือว่าน้อยมาก (Portfolio Turnover Ratio คือความถี่ในการเปลี่ยนหุ้นใน 1 ปี เช่น ถ้า KFSDIV ถือหุ้น 100 ตัว แสดงว่าใน 1 ปี KFSDIV จะขายหุ้น 24-25 ตัว เพื่อซื้อหุ้นตัวใหม่) สำหรับผมแล้ว Portfolio Turnover Ratio ต่ำๆ น่าจะดีเพราะหมายความว่า กองทุนเน้นถือยาวจริงๆ และจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหุ้นด้วย
- กองทุนมีการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนทุกปีตั้งแต่ปีที่ก่อตั้ง (2550) และจ่ายเงินปันผล 4 ครั้ง (ทุกไตรมาส) เกือบทุกปี ซึ่งหลายๆ คนน่าจะชอบ KFSDIV ที่ตรงนี้ครับ
ที่มา www.wealthmagik.com
- กองทุนมีการถือหุ้นในทุกอุตสาหกรรม และถือหุ้นไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป (ล่าสุดถือ 40 ตัว) ดังรูปด้านล่าง
ที่มา www.wealthmagik.com
สร้าง Passive Income อย่างง่ายๆด้วยกองทุน KFSDIV
Passive Income หรือรายได้โดยที่เราไม่ต้องทำงานนั้น เราสามารถสร้างได้โดยการทะยอยออมเงินแต่ละเดือนลงไปในกองทุน KFSDIV ครับ (หรืออาจจะลงทุนในหุ้นหรือกองทุนอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน)
ตัวอย่าง
- ออมเงินเดือนละ 6,000 บาททุกเดือนในกองทุน KFSDIV
- ระยะเวลา 20 ปี
- เงินปันผลได้ปีละ 8% และในช่วง 20 ปี เราจะนำเงินปันผลไปลงทุนต่อในกองทุน KFSDIV (re-investment)
future value calculator
จากรูป future value calculator (from http://www.thecalculatorsite.com/articles/finance/future-value-formula.php)
- ณ ปีที่ 20 เราจะมีเงินทั้งสิ้น 3,534,122.49 บาท
- กองทุน KFSDIV น่าจะปันผล 8% ดังนั้นเราจะได้เงินปันผล 282,729 บาทต่อปี หรือเดือนละ 23,560 บาทโดยที่เราไม่ต้องทำงานประจำ
- จากตัวอย่าง ถ้าเราออมเงินมากกว่าเดือนละ 6,000 บาท ก็จะได้ Passive Income มากกว่าค่าข้างต้นครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น