30 กรกฎาคม 2567

รีวิวประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ FWD Easy E-Save 10/5 IRR สูง

ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ FWD Easy E-Save 10/5 

  • ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ FWD Easy E-Save 10/5 เป็นของบริษัท FWD หนึ่งในบริษัทประกันรายใหญ่ของไทย
  • สามารถซื้อออนไลน์ได้ด้วยตัวเองผ่าน website https://www.fwd.co.th/th/savings-insurance/easy-e-save/



ตัวอย่างรายละเอียดค่าเบี้ยและเงินคืน

  • จากรูป เบี้ยประกันปีละ ​100,000 บาท จ่าย 5 ปี
  • ได้เงินคืนทุกปี โดยปีที่ 1-5 ได้คืนปีละ 5,904 บาท และปีที่ 6-9 ได้คืนปีละ 7,380 บาท
  • ครบสัญญาปีที่ 10 ได้เงินคืน 516,604 บาท



คำนวณ IRR

  • ฐานภาษี   0%: IRR 1.89%
  • ฐานภาษี   5%: IRR 2.60%
  • ฐานภาษี 10%: IRR 3.34%
  • ฐานภาษี 20%: IRR 4.98%
  • ฐานภาษี 25%: IRR 5.90%
  • ฐานภาษี 30%: IRR 6.88%

24 กรกฎาคม 2567

[EP 2] DCA 3 กองทุนหุ้นโลกให้ได้ถึงล้านบาท

 

ครั้งที่ Period เงินต้นต่อกอง มูลค่า KWORLDX มูลค่า SCBPGF(E) มูลค่า KFGDIV-A
1 Jul 2024 5,0004,909.04 🏆5,094.11
4,934.10


ดูบทความ EP อื่นๆ ได้ที่ link
ดูรายละเอียดกองทุนหุ้นโลกแต่ละกองได้ที่ EP1 link

18 กรกฎาคม 2567

รวมรายชื่อ กองทุนรวม Index Fund ที่ลงทุนในดัชนี SET50 หรือ SET100 ค่าธรรมเนียมต่ำ

กองทุนรวม Index Fund ที่ลงทุนในดัชนี SET50 หรือ SET100 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทย และชอบกองทุนรวมที่ค่าธรรมเนียมต่ำ
 
กองทุนรวม บลจ ค่าธรรมเนียมต่อปี(%)
TDEX ONEAM 0.51
SCBSET50 SCBAM 0.63
K-SET50 K-Asset 0.66
KKP-SET50-ESG KKP 0.56
KFS100 Krungsri 0.72
BSET100 BBLAM 0.69

*TDEX นั้นเป็น ETF ที่ซื้อขายเหมือนหุ้น ต้องซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหุ้น
**ข้อมูลค่าธรรมเนียมอัพเดทล่าสุด Jul 2024

15 กรกฎาคม 2567

kubectl command update min-replicas and max-replicas of hpa

To update min-replicas or max-replicas of hpa using kubectl command, just run

kubectl -n YOUR_NAME_SPACE patch hpa YOUR_DEPLOYMENT --patch '{"spec":{"minReplicas":2,"maxReplicas":10}}'

The command above will set min-replicas to 2, and set max-replicas to 10

To review hpa result, run this command

kubectl -n YOUR_NAME_SPACE get hpa -o=custom-columns=NAME:.metadata.name,MIN:.spec.minReplicas,MAX:.spec.maxReplicas

10 กรกฎาคม 2567

สรุปกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG ที่มาทดแทนกองทุน LTF, SSF

กองทุน Thai ESG คืออะไร

  • กองทุน Thai ESG คือกองทุนลดหย่อนภาษีที่จะลงทุนในหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี SETESG (https://www.set.or.th/th/market/index/setesg/overview)
  • ลดหย่อนภาษีได้ มาทดแทนกองทุน SSF, LTF


กองทุน Thai ESG เริ่มซื้อได้ปีไหน

  • สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2575 
  • ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ปี 2566-2575


กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้กี่บาท

  • กรณีลงทุนในปี 2567 - 2569: ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ไม่เกิน 300,000 บาท
  • กรณีลงทุนในปี 2566, 2570 - 2575: ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ไม่เกิน 100,000 บาท


กองทุน Thai ESG ถือกี่ปี

  • กรณีลงทุนในปี 2567 - 2569: ถือครอง 5 ปี (วันชนวัน)
  • กรณีลงทุนในปี 2566, 2570 - 2575: ถือครอง 8 ปี (วันชนวัน)



ที่มา https://money.kapook.com/view275338.html


01 กรกฎาคม 2567

ไม่ต้องมีเงินถุงเงินถัง ก็ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้


การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คือ การที่เราไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน บ้าน คอนโด ทาวน์โฮม หอพัก อพาร์ตเม้นต์ โรงแรม โรงงาน คลังสินค้า แล้วนำอสังหาริมทรัพย์นั้นไปปล่อยเช่าเพื่อรับรายได้จากค่าเช่า (บางคนเรียกวิธีนี้น้ำซึมบ่อทราบ กินค่าเช่าได้เรื่อยๆ) หรือถืออสังหาริมทรัพย์ไว้เพื่อขายต่อในอนาคต (รับรู้ส่วนต่างราคา)


ข้อดีของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

  • มีรายได้จากค่าเช่าเรื่อยๆ สม่ำเสมอ เป็น passive income
  • ถ้าอสังหาริมทรัพย์ทำเลดี อนาคตราคาน่าจะสูงขึ้น ทำให้ขายต่อได้กำไร
  • อสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้ ใช้ประโยชน์ได้จริง


การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินเยอะ​?

หลายคนอาจจะคิดว่า การเป็นเจ้าของอสังหริมทรัพย์นั้นต้องใช้เงินเยอะ หลายล้านบาท แต่ความจริงแล้ว เราสามารถใช้เงินหลักร้อย หลักพันบาท ก็เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว

ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีสินค้าการลงทุนประเภทนึงชื่อว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund) หรือกองทุนรีท (reit) ที่เปิดให้นักลงทุนร่วมเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และได้รับค่าเช่าได้ 



ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund) หรือกองทุนรีท (reit)
  • มีข้อดีเหมือน "ข้อดีของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์" ทุกประการ
  • ใช้เงินลงทุนไม่สูง หลักร้อยหลักพันบาท ก็ลงทุนได้
  • ซื้อขายง่าย เหมือนซื้อขายหุ้น
  • มีผู้เชี่ยวชาญบริหารอสังหาริมทรัพย์ให้เรา หาลูกค้าให้เรา
  • กระจายความเสี่ยงได้หลากหลายสินทรัพย์ เช่น สมมติเรามีเงิน 1 ล้านบาท ถ้าจะซื้อคอนโด ก็ซื้อได้ 1 ห้อง แต่ถ้าซื้อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund) หรือกองทุนรีท (reit) อาจจะแบ่งเป็น 10 ตัว ตัวละ 1 แสนบาทก็ได้


หลักในการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund) หรือกองทุนรีท (reit)
  • เน้นกองทุนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน (free hold), ถ้า free hold 100% ยิ่งดี หรือ free hold > 50% ก็ถือว่าใช้ได้
  • free hold คือเรามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นๆ ไม่มีวันหมดอายุ ถือกินปันผลได้ตลอดชีวิต, leass hold คือเป็นสัญญาเช่า มีวันหมดอายุ
  • ควรกระจายความเสี่ยง ลงทุนในหลากหลายทรัพย์สิน เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงงาน คลังสินค้า เผื่อบางทีลงทุนพลาด จะได้ไม่เจ็บตัวมาก
  • เน้นกองทุนที่มีปันผลดี และสม่ำเสมอ



ตัวอย่างกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund) หรือกองทุนรีท (reit)ที่น่าสนใจ
  • LPF
    • free hold 70%
    • อุตสาหกรรม ศูนย์การค้า
    • ปันผล 4-5%
  • FTREIT
    • free hold 70%
    • อุตสาหกรรม โรงงานและคลังสินค้า
    • ปันผล 5-6%
  • AIMIRT
    • free hold 60%
    • อุตสาหกรรม โรงงานและคลังสินค้า
    • ปันผล 5-6%
  • WHART
    • free hold 50%
    • อุตสาหกรรม โรงงานและคลังสินค้า
    • ปันผล 5-6%
  • IMPACT
    • free hold 100%
    • อุตสาหกรรม อาคารแสดงสินค้า
    • ปันผล 3-4%
  • TPRIME
    • free hold 70%
    • อุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน
    • ปันผล 4-5%
  • WHABT
    • free hold 60%
    • อุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน
    • ปันผล 4-5%
  • SSPF
    • free hold 100%
    • อุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน
    • ปันผล 2-3%
  • SIRIP
    • free hold 100%
    • อุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน
    • ปันผล 2-3%
  • QHHR
    • free hold 70%
    • โรงแรม
    • ปันผล 4-5%
  • GAHREIT
    • free hold 100%
    • โรงแรม
    • ปันผล 5-6%
  • GROREIT
    • free hold 100%
    • โรงแรม
    • ปันผล 5-6%



บทความยอดนิยม (ล่าสุด)

บทความยอดนิยม (1 ปีย้อนหลัง)